Skip to content

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประสบความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยหัวใจลิ้นหัวใจตีบที่มีความเสี่ยงสูง ด้วยหัตถการเปลี่ยนลิ้นหัวใจผ่านสายสวน (TAVI) โดยไม่ต้องผ่าตัด ครบ 100 ราย

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประสบความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยหัวใจลิ้นหัวใจตีบที่มีความเสี่ยงสูง ด้วยหัตถการเปลี่ยนลิ้นหัวใจผ่านสายสวน (TAVI) โดยไม่ต้องผ่าตัด ครบ 100 ราย ผู้ป่วยทุกรายมีอาการปลอดภัย ฟื้นตัวได้เร็วโดยไม่มีบาดแผล และสามารถกลับไปดำเนินชีวิตได้ตามปกติ
.
รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มช. กล่าวว่า “ผู้ป่วยที่เป็นโรคลิ้นหัวใจตีบนั้น มักมีอาการแน่นหน้าอก บวม และเหนื่อยง่าย หรือหัวใจวายเฉียบพลัน ทำให้ไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ โดยการรักษาแบบมาตรฐาน ผู้ป่วยจะต้องได้รับการผ่าตัดเปิดช่องอก เพื่อเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียม ซึ่งการรักษาด้วยการผ่าตัดนี้อาจไม่สามารถจะทำได้ในผู้ป่วยทุกราย เนื่องจากผู้ป่วยกลุ่มนี้มักจะมีโรคประจำตัวหลายโรค อายุมาก มีความเปราะบาง ทำให้ไม่สามารถทนการดมยาสลบหรือผ่าตัดเป็นระยะเวลานานได้
.
การรักษาด้วยหัตถการเปลี่ยนลิ้นหัวใจผ่านสายสวน (TAVI) เป็นการใส่ลิ้นหัวใจเทียมผ่านสายสวนเข้าไปทางหลอดเลือดแดงใหญ่บริเวณขาหนีบ (คล้ายการทำบอลลูน) เมื่อสายสวนไปถึงบริเวณของลิ้นหัวใจที่ตีบแล้ว แพทย์จะทำการปล่อยให้ลิ้นหัวใจเทียมที่มีการม้วนพับอยู่ให้กางออก กลายเป็นลิ้นหัวใจอันใหม่ทดแทนของเดิมที่เสื่อมสภาพเนื่องจากการรักษาด้วยเทคนิคนี้
.
ข้อดีของการเปลี่ยนลิ้นหัวใจผ่านสายสวนนี้ ทำให้ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่เพื่อเปิดช่องอก แต่แพทย์จะใช้วิธีฉีดยาชาเฉพาะที่ แทนการดมยาสลบ ซึ่งเวลาในการทำหัตถการนี้เร็วที่สุดคือ 1-2 ชั่วโมง ผู้ป่วยจึงฟื้นตัวได้เร็ว โดยที่ไม่มีบาดแผล หากไม่มีอาการแทรกซ้อนผู้ป่วยสามารถกลับไปดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประสบความสำเร็จสามารถรักษาผู้ป่วยหัวใจตีบที่มีความเสี่ยงสูง ด้วยหัตถการเปลี่ยนลิ้นหัวใจผ่านสายสวน (TAVI) โดยไม่ต้องผ่าตัด ครบจำนวน 100 ราย ผู้ป่วยทุกรายมีอาการปลอดภัย ฟื้นตัวได้เร็วโดยไม่มีบาดแผล และสามารถกลับไปดำเนินชีวิตได้ตามปกติ”
.
อ.พญ.ทรรศลักษณ์ ทองหงษ์ อาจารย์ประจำหน่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า “การทำหัตถการเปลี่ยนลิ้นหัวใจผ่านสายสวน (TAVI) โดยไม่ต้องผ่าตัด รายที่ 100 บุคลากรของศูนย์โรคหัวใจภาคเหนือ พร้อมด้วย รศ.ดร.พญ.พรรณนิภา สุวรรณสม ได้ร่วมสาธิตการทำหัตถการเปลี่ยนลิ้นหัวใจผ่านสายสวน (TAVI) ให้แก่ผู้เข้าร่วมประชุมทางไกลจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ “Preparing for your first TAVI case Like a Pro!” Live Case Transmission from Maharaj Nakorn Chiang Mai Hospital Chiang Mai University ด้วยการถ่ายทอดสดผ่านระบบออนไลน์ เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้
.

ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดจะได้รับการประเมินโดยใช้ CT Scan เมื่อมีการวิเคราะห์ X-ray คอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว แพทย์จะเตรียมผู้ป่วยเพื่อการผ่าตัดที่มีเครื่องเอกซเรย์ฟลูออโรสโกปีระบบดิจิตอล (Fluoroscopy) ร่วมด้วย และใช้ภาพจากเครื่องนี้ในการประเมินลิ้นหัวใจว่าอยู่บริเวณไหน และมีการตีบมากน้อยแค่ไหน ในความเป็นจริงเราไม่ได้เรียกว่าการผ่าตัด แต่จะเรียกว่าเป็นการทำการหัตถการมากกว่า เพราะแผลผ่าตัดเล็กมาก ประมาณ 1 เซนติเมตรเท่านั้น และไม่ต้องตัดไหม ไม่ต้องล้างแผล”

สำหรับการกำหนดแนวทางในการรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคลิ้นหัวใจตีบ ปัจจุบันจะใช้ข้อจำกัดความ 2 ข้อ คือผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 75 ปี และผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงที่ไม่สามารถทำการผ่าตัดได้อย่างปลอดภัย
.
โรคลิ้นหัวใจตีบที่มากับผู้ป่วยสูงอายุ จากการสำรวจทั่วโลก ประชากรที่เป็นลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบรุนแรง จากอายุที่เพิ่มขึ้นพบมากถึงร้อยละ 3 ในผู้ป่วยที่อายุมากกว่า 75 ปี และร้อยละ 6 ในผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 85 ปี โดยเป็นเพศชาย ร้อยละ 48 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์เปลี่ยนลิ้นหัวใจทางสายสวน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โทร. 053-936711, 053-936713