
“ใหลตาย” (Brugada Syndrome) ภัยเงียบยามวิกาล… แข็งแรงแค่ไหนก็อาจเสี่ยง!
.
ภาพที่มักคุ้นชินของผู้ที่เสียชีวิตขณะนอนหลับ และมักพบในผู้ที่สูงอายุ, มีปัญหาสุขภาพ, ดื่มสุรา, สูบบุหรี่, มีโรคร่วมอยู่เดิม แต่ก็มีข่าวผู้คนวัยทำงาน ร่างกายแข็งแรง ไม่เคยเจ็บป่วย กลับนอนหลับและจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เหตุการณ์นี้สร้างความโศกเศร้าและตื่นตระหนกในสังคมไทยมานาน หลายคนเรียกมันว่า “โรคใหลตาย” ในความเป็นจริงทางการแพทย์ “ใหลตาย” ไม่ใช่เรื่องลี้ลับ และไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่มันคือโรคทางพันธุกรรมที่สามารถอธิบายและป้องกันได้
.
การเสียชีวิตฉับพลันมักเกิดจากโรคหรือภาวะผิดปกติอย่างรุนแรงของหัวใจที่เกิดขึ้นฉับพลัน โดยเฉพาะภาวะหัวใจเต้นผิดปกติร้ายแรง ซึ่งโรคใหลตาย หรือทางการแพทย์เรียกว่า Brugada Syndrome (บรูกาด้า ซินโดรม) คือกลุ่มอาการที่ที่หัวใจเต้นผิดจังหวะอย่างรุนแรงอันเกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรมของระบบกระแสไฟฟ้าในหัวใจ (คล้ายกับวงจรไฟฟ้าลัดวงจร) ส่งผลให้หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้กะทันหัน เมื่อเกิดขึ้นต่อเนื่อง และไม่ได้รับการช่วยชีวิตอย่างทันท่วงทีก็จะนำไปสู่การเสียชีวิต โรคนี้พบได้มากในประชากรชายแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะ “ภาคอีสาน” ของไทย ซึ่งสถิติพบผู้ป่วยสูงถึง 4 คน ในประชากร 1,000 คน และมักเกิดขึ้นในขณะที่ผู้ป่วยกำลังนอนหลับ
.
ใครบ้างที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง?
แม้คนภายนอกจะดูแข็งแรง แต่หากมีปัจจัยเหล่านี้ คุณอาจมีความเสี่ยงมากกว่าคนทั่วไป 1. เพศชาย: มีโอกาสเป็นมากกว่าเพศหญิงหลายเท่า
2. พันธุกรรม: มีประวัติคนในครอบครัว (สายตรง) เสียชีวิตกะทันหันก่อนวัยอันควร (ชายก่อนอายุ 55 ปี, หญิงก่อนอายุ 65 ปี)
3. ประวัติส่วนตัว: เคยมีอาการวูบ เป็นลม หมดสติ หรือเคยตรวจพบคลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ
.
สัญญาณเตือน… ก่อนภัยมาถึงตัว
แม้จะได้ชื่อว่าเป็นมัจจุราชเงียบ แต่ร่างกายมักส่งสัญญาณเตือนมาก่อนเสมอ หากสังเกตดีๆ จะพบอาการเหล่านี้
• นอนหลับแล้วหายใจเสียงดัง เฮือก หรือเหมือนคนขาดอากาศหายใจ
• สะดุ้งตื่นกลางดึกพร้อมอาการใจสั่น แน่นหน้าอก
• มีอาการเกร็ง หรือปัสสาวะราดขณะนอนหลับ
.
สิ่งกระตุ้นที่ทำให้โรคกำเริบ (สิ่งที่ควรเลี่ยง)
สำหรับผู้ที่มีพันธุกรรมแฝงอยู่ โรคอาจจะไม่แสดงอาการเลยตลอดชีวิต หากไม่มี “ตัวกระตุ้น” เหล่านี้
• การดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มมึนเมา
• การใช้สารเสพติดทุกชนิด (กัญชา, ยาบ้า, โคเคน)
• ยาบางชนิดที่มีผลต่อระบบประสาท
• ภาวะร่างกายขาดพักผ่อน หรือทำงานหนักเกินไป
• การเป็นไข้สูง (ความร้อนกระตุ้นให้ไฟฟ้าหัวใจรวนได้ง่ายขึ้น)
.
ทางรอดและการปฐมพยาบาล หากคุณพบเห็นคนนอนหลับแล้วมีอาการเกร็ง หายใจติดขัด หรือหมดสติ ปลุกไม่ตื่น “ห้ามรอ” เด็ดขาด
1. ตั้งสติและโทร 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือทันที
2. ตรวจชีพจรและลมหายใจ
3. หากหยุดหายใจหรือไม่มีชีพจร ให้ทำ CPR (ปั๊มหัวใจ) ทันที เพื่อช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ระหว่างรอการช่วยเหลือจากทีมแพทย์
.
โรคใหลตายอาจดูน่ากลัว แต่หากเรารู้เท่าทัน หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง และหมั่นสังเกตอาการของตัวเองและคนใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติเสี่ยงควรเข้ารับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) เฉพาะทาง ก็จะช่วยลดความสูญเสียและป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้
.
ขอขอบคุณข้อมูลจาก:ผศ.นพ.นราวุฒิ ประเสริฐวิทยากิจ อายุรแพทย์ อนุสาขาสรีระไฟฟ้าหัวใจ หน่วยวิชาโรคหัวใจและหลอดเลือด ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มช.
เรียบเรียง:นางสาวนันทพร ระบิน
ภาพ / ข่าว :งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
.
#ใหลตาย#MedCMU #MedCMUในมือคุณ#คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่#สื่อสารองค์กรMedCMU
