mourning ribbon

ด่วน! เชียงรายโรคหัดกลับมาระบาดหนัก แพทย์มช.แนะ เด็ก-ผู้ใหญ่ ควรได้รับวัคซีนเพื่อป้องกันโรค

ด่วน! เชียงรายโรคหัดกลับมาระบาดหนัก แพทย์มช.แนะ เด็ก-ผู้ใหญ่ ควรได้รับวัคซีนเพื่อป้องกันโรค

.

แพทย์มช.เตือน ปชช.เฝ้าระวังโรคหัด หลังพบการระบาดในพื้นที่จ.เชียงราย เน้นย้ำผู้ปกครองควรพาเด็กเข้ารับวัคซีนป้องกันให้ครบ ส่วนผู้ใหญ่หากไม่มีภูมิควรรับวัคซีนซ้ำ เพื่อลดความรุนแรงของโรค

.

อ.พญ.สิปาง ปังประเสริฐกุล อาจารย์ประจำสาขาโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มช. เปิดเผยว่า โรคหัดเป็นโรคไข้ออกผื่นที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า Measles ซึ่งเป็น RNA ไวรัส โดยเชื้อจะอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย และเสมหะของผู้ป่วย สามารถติดต่อและแพร่กระจายได้ง่ายมาก เมื่อผู้ป่วยได้รับเชื้อหัดจะมีระยะฟักตัวของโรค จนเกิดอาการประมาณ 8-12 วัน อาการเด่นชัด ได้แก่ ไข้สูง ไอ น้ำมูกไหล ตาแดง ตาแฉะ บางรายอาจมีอาการถ่ายเหลวได้ในระยะก่อนผื่นขึ้น และมีจุดขาวเล็กๆที่กระพุ้งแก้ม ซึ่งหลังจากมีไข้ประมาณ 3-4 วัน จะเริ่มมีผื่นที่ผิวหนัง ลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็กๆ สีแดง บริเวณไรผมและลำคอ จากนั้นผื่นจะลามไปตามใบหน้า ลำตัว แขนและขา ใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน เมื่อผื่นขึ้นทั่วตัวแล้วไข้ก็จะเริ่มลดลง และผื่นจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลคล้ำหลายวันก่อนจางไป ซึ่งจะต่างจากโรคหัดเยอรมันตรงความรุนแรงของอาการ เนื่องจากหัดเยอรมันมักจะรุนแรงน้อยกว่าโรคหัด ผู้ป่วยจะมีไข้ อ่อนเพลีย ไอ น้ำมูกเล็กน้อย บางรายอาจจะมีอาการน้อยมาก ร่วมกับคลำได้ต่อมน้ำเหลืองที่ลำคอโตขึ้น โดยเฉพาะบริเวณหลังใบหู มีผื่นลักษณะเป็นตุ่มนูนแดงเล็กๆ และผื่นมักหายเร็วมาก ประมาณ 1-2 วันจะยุบหายไปพร้อมกับสีจางลง

.

โดยผู้ป่วยสามารถแพร่เชื้อได้นาน ตั้งแต่ 4 วันก่อนผื่นขึ้น ไปจนถึง 4 วันหลังผื่นขึ้น ผ่านทางละอองฝอยจากการไอ จาม เชื้อจะอยู่ในอากาศ และเข้าสู่ร่างกายทางการหายใจ หรือสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ เช่นน้ำมูก น้ำลาย และเสมหะ จากข้อมูลการระบาดในหลายพื้นที่ ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็ก หากไม่ได้รับวัคซีนป้องกัน มีโอกาสป่วยและเกิดภาวะแทรกซ้อนจากเป็นโรคหัดได้ เช่น ปอดอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ สมองอักเสบ เป็นต้น การรักษาในปัจจุบันสำหรับผู้ที่ติดเชื้อแพทย์จะรักษาตามอาการ ได้แก่ การให้ยาลดไข้ ยาแก้ไอ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ ร่วมกับให้วิตามินเอร่วมด้วย เป็นเวลา 2 วัน แต่หากพบว่าอาการไม่ดีขึ้น คือ มีอาการไอมาก เสมหะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเขียว หรือหายใจเหนื่อยหอบ มีความเสี่ยงสูงหรือสงสัยภาวะแทรกซ้อน ควรรีบพบแพทย์ทันที อย่างไรก็ตามหากพบว่ามีการแพร่ระบาดในโรงเรียน ควรให้นักเรียนที่มีอาการผื่นขึ้นหรือสงสัยโรคหัด หยุดเรียนเป็นเวลา 4 วันหลังจากผื่นขึ้น เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อ และควรจัดตั้งระบบเฝ้าระวังผู้ป่วย เพื่อติดตามสถานการณ์ผู้ป่วยใหม่ในโรงเรียนจนกว่าจะครบ 2 เท่าของระยะฟักตัว หลังจากพบผู้ป่วยรายสุดท้ายในโรงเรียน

.

อ.พญ.สิปาง ปังประเสริฐกุล กล่าวทิ้งท้ายว่า ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคควรปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัดคือ หลีกเลี่ยงใกล้ชิดผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้ออกผื่น , สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อย ๆ ลดการแพร่เชื้อ , เด็กควรได้รับวัคซีนเข็มรวมหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม เข็มแรกที่อายุ 9–12 เดือน และเข็มที่สองอายุ 18 เดือน และ ผู้ใหญ่ที่ไม่เคยได้รับวัคซีน หรือไม่แน่ใจ ควรเข้ารับวัคซีน หัด-หัดเยอรมัน เพื่อลดความรุนแรงของโรคที่อาจจะเกิดขึ้นได้

.

เรียบเรียง: นางสาวสมัชญา หน่อหล้า

ภาพ / ข่าว : งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

#โรคระบาดหน้าหนาว #โรคหัด #แพทย์ มช. #MedCMU #คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ #แพทย์เชียงใหม่ #แพทย์มช. #หมอสวนดอก #โรงพยาบาลสวนดอก #Medcmuในมือคุณ #สื่อสารองค์กรMedcmu