mourning ribbon

การแช่น้ำแข็ง (Ice Bath) หลังออกกำลังกาย เทรนด์สุขภาพที่ควรรู้

การแช่น้ำแข็ง (Ice Bath) หลังออกกำลังกาย เทรนด์สุขภาพที่ควรรู้

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “การแช่น้ำแข็ง” หรือ Ice Bath กลายเป็นเทรนด์สุขภาพที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในหมู่ผู้ที่ออกกำลังกายอย่างจริงจังหรือเล่นกีฬาเป็นประจำ หลายคนเชื่อว่า Ice Bath ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อและลดความปวดเมื่อยหลังการออกกำลังกายได้ แต่คำถามคือ วิธีนี้ได้ผลจริงหรือไม่? และปลอดภัยสำหรับทุกคนหรือเปล่า? มาหาคำตอบกัน

.

Ice Bath คืออะไร?

Ice Bath หรือที่เรียกในทางวิชาการว่า Cold Water Immersion (CWI) คือกระบวนการแช่ตัวในน้ำเย็นจัด โดยอุณหภูมิของน้ำจะอยู่ที่ประมาณ 10–15 องศาเซลเซียส เป็นเวลาประมาณ 10–15 นาที จุดประสงค์หลักคือเพื่อลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูเร็วขึ้น และลดอาการปวดเมื่อยหลังออกกำลังกาย

.

เทรนด์Ice Bath เริ่มจากไหน?

เดิมที Ice Bath ถูกใช้ในวงการกีฬาอาชีพ เช่น ฟุตบอลยุโรป นักวิ่งมาราธอน นักยกน้ำหนัก และกีฬา CrossFit โดยมีเป้าหมายเพื่อการฟื้นฟูร่างกายอย่างเร่งด่วน หลังจากนั้นเทคนิคนี้ก็ได้รับความนิยมในวงกว้างผ่านโซเชียลมีเดีย และบุคคลที่มีชื่อเสียงด้านสุขภาพ เช่น Wim Hof และ Dr. Andrew Huberman ซึ่งช่วยเผยแพร่แนวคิดและประโยชน์ของการใช้ความเย็นเพื่อกระตุ้นทั้งร่างกายและจิตใจ

.

Ice Bath ได้ผลจริงหรือไม่?

งานวิจัยจำนวนมากเริ่มให้ภาพที่ชัดเจนขึ้นว่า Ice Bath มีประโยชน์จริงต่อการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ตัวอย่างเช่น

• Aidar et al. (2025) พบว่านักกีฬายกน้ำหนักที่ใช้ CWI หลังการฝึกซ้อม มีแรงกล้ามเนื้อฟื้นตัวได้ดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง

• Huang et al. (2024) รายงานว่าเมื่อแช่น้ำเย็นต่อเนื่อง 5 วัน จะช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อ (DOMS) และลดระดับ myoglobin ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ความเสียหายของกล้ามเนื้อ

.

ประโยชน์ของ Ice Bath

• ลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย

• ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อ

• เร่งการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย

• อาจช่วยลดความเครียดและปรับสมดุลระบบประสาทอัตโนมัติ

.

ความเสี่ยงและข้อควรระวัง

แม้จะมีประโยชน์ แต่การแช่น้ำแข็งก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำโดยไม่วางแผนหรือรู้เท่าทัน โดยเฉพาะ:

• ภาวะอุณหภูมิต่ำเกิน (Hypothermia) หากแช่นานเกินไปหรืออุณหภูมิต่ำเกินไป

• หัวใจเต้นผิดจังหวะ โดยเฉพาะในผู้มีโรคหัวใจ (Craviari et al., 2024)

• การใช้บ่อยเกินไปอาจขัดขวางการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ (หากกำลังอยู่ในช่วงสร้างกล้ามหรือ hypertrophy)

• อาจส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันหากร่างกายยังฟื้นตัวไม่สมบูรณ์

.

ใครบ้างที่ “ไม่ควร” แช่น้ำแข็ง?

• ผู้ที่เป็นโรคหัวใจหรือมีจังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ

• ผู้ที่มี ความดันโลหิตสูงหรือไม่คงที่

• ผู้ที่มีภาวะไหลเวียนเลือดผิดปกติ เช่น Raynaud’s Disease

• เด็กและผู้สูงอายุ เนื่องจากร่างกายควบคุมอุณหภูมิได้ไม่ดี

.

คนทั่วไปที่ไม่ออกกำลังกาย แช่น้ำเย็นได้ไหม?

สามารถทำได้ในบางกรณี เช่น เพื่อความผ่อนคลาย หรือการฝึกจิตใจ แต่ควรแช่เพียง ไม่เกิน 5 นาที ในครั้งแรก และควรมีผู้เชี่ยวชาญคอยแนะนำ เพื่อความปลอดภัย

Ice Bath เป็นเครื่องมือช่วยฟื้นฟูร่างกายที่มีงานวิจัยรองรับ และมีประโยชน์จริงหากใช้อย่างถูกวิธี โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายหนักเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม ควรใช้อย่างมีความรู้ และตระหนักถึงความเสี่ยง โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือมีข้อจำกัดทางสุขภาพ

.

อ้างอิง:

1. Aidar FJ, Santos WYHd, Machado SdC, Nunes-Silva A, Vieira ÉLM, Valenzuela Pérez DI, Aedo-Muñoz E, Brito CJ, Nikolaidis PT. Enhancing post-training muscle recovery and strength in Paralympic powerlifting athletes with cold-water immersion, a cross-sectional study. Int J Environ Res Public Health. 2025;22(1):122.

2. Huang YC, Chen HT. Effect of cold-water immersion treatment on recovery from exercise-induced muscle damage in the hamstring. Eur J Sport Sci. 2025 Mar;25(3):e12235.

3. Craviari C, Merkt B, Baggish AL, Namdar M, Meyer P. Potential impact of cold water immersion on arrhythmogenesis: a pilot exploratory study surrounding the Geneva Christmas Cup. Eur Heart J. 2024 Oct;45(Suppl 1):ehae666.3011.

.

ขอบคุณข้อมูลจาก : รศ.นพ.จักรกริช กล้าผจญ หัวหน้าภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู คณะแพทยศาสตร์ มช.

.

เรียบเรียง : นางสาวนันทพร ระบิน

.

ภาพ / ข่าว : งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

.

# Ice Bath #การแช่น้ำแข็ง #สุขภาพดีกับหมอสวนดอก #MedCMU #คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ #แพทย์เชียงใหม่ #แพทย์มช #หมอสวนดอก #โรงพยาบาลสวนดอก #Medcmuในมือคุณ #สื่อสารองค์กรMedcmu