mourning ribbon

ใช้ชีวิตหลังเกษียณ อย่างมีค่า เพราะวัยเกษียณไม่ใช่จุดสิ้นสุดของการทำงาน

ใช้ชีวิตหลังเกษียณ อย่างมีค่า เพราะวัยเกษียณไม่ใช่จุดสิ้นสุดของการทำงาน

.


ในอดีต “วัยเกษียณ” มักถูกมองว่าเป็นช่วงสุดท้ายของชีวิตการทำงาน แต่ในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในสังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบของประเทศไทย ความคิดนี้เริ่มเปลี่ยนไป ผู้สูงวัยจำนวนไม่น้อยยังคงมุ่งมั่นทำงานหรือทำกิจกรรมที่มีคุณค่าแก่สังคม

.


แม้ว่ารัฐไทยยังคงกำหนดอายุเกษียณที่ 60 ปี แต่ในบางวงการ เช่น ตุลาการ หรือวงการแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้จนถึงอายุ 70 ปี โดยมีบทบาทสำคัญไม่แพ้คนวัยทำงาน นั่นสะท้อนให้เห็นว่าช่วงชีวิตหลังเกษียณไม่ได้หมายถึง “การหยุด” แต่คือ “การเปลี่ยนบทบาท”

.


หลายคนคิดว่าจะได้พักผ่อนอยู่บ้านอย่างสบาย แต่เมื่อถึงเวลาจริง กลับพบว่าความสุขนั้นเกิดขึ้นจากการได้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าและไม่หยุดนิ่ง

.


ร่างกายยิ่งอายุมากยิ่งต้องดูแลให้มาก

เมื่อเข้าสู่วัย 60 ขึ้นไป ร่างกายย่อมมีการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ ระบบต่างๆ อย่างหัวใจ สมอง ปอด ไต หรือแม้แต่ระบบย่อยอาหารก็ทำงานช้าลง ความฟื้นตัวจากอาการเจ็บป่วยก็ไม่เหมือนเดิม

.


หนึ่งในคำเปรียบเทียบที่น่าสนใจคือ “ร่างกายของเราเหมือนรถยนต์ที่ใช้งานมาแล้ว 60 ปี” ซึ่งต้องการการดูแลพิเศษ ไม่ใช่แค่การซ่อมแซมเมื่อเสีย แต่ต้องบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง

.


อาหารสำหรับวัยเกษียณ

.


• ลดแป้ง ไขมัน และน้ำตาล เพื่อหลีกเลี่ยงโรคเบาหวาน ความดัน และโรคหลอดเลือด

• เสริมโปรตีนที่ย่อยง่าย เช่น ไข่ เนื้อปลา ถั่ว และธัญพืช

• กินผัก ผลไม้ และอาหารที่อุดมด้วยวิตามินและแคลเซียม

• ดื่มน้ำให้เพียงพอ และลดการบริโภคอาหารแปรรูป

.


เคลื่อนไหวสม่ำเสมอ

.


การออกกำลังกายแม้เพียงเบาๆ เช่น เดิน โยคะ หรือยืดเหยียด ก็ช่วยรักษาความแข็งแรงและสมดุลของร่างกาย ลดความเสี่ยงในการหกล้ม และช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง

.


รถยนต์ที่จอดนานๆ จะสตาร์ทยาก ร่างกายคนเราก็เช่นกัน ถ้าไม่เคลื่อนไหวเลยจะเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว

.


ปรับสุขภาพจิตและอารมณ์ กุญแจสำคัญของวัยเกษียณ

.


สุขภาพจิตใจเป็นอีกมิติหนึ่งที่มักถูกมองข้าม ทั้งที่จริงแล้วเป็นสิ่งสำคัญมากในวัยหลังเกษียณ

.


เมื่อไม่มีงานประจำ ไม่มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบแบบเดิม หลายคนอาจเผชิญกับความรู้สึกว่างเปล่า เหงา หรือไร้ค่า การจัดการอารมณ์จึงเป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝน

.


วิธีดูแลสุขภาพจิตหลังเกษียณ

.


• นอนหลับให้เพียงพอ เพราะการพักผ่อนอย่างมีคุณภาพส่งผลต่อทั้งกายและใจ

• ฝึกสมาธิหรือปฏิบัติธรรม เพื่อเพิ่มสติและควบคุมอารมณ์

• ทำกิจกรรมที่รัก เช่น ปลูกต้นไม้ ทำสวน อ่านหนังสือ หรือเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

• เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาหรือชุมชน เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์และรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคม

.


“ชีวิตหลังเกษียณไม่จำเป็นต้องเงียบเหงา ถ้าเรารู้จักเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ผู้คน และจิตใจของตัวเอง”

.


หางานอดิเรก หรือ “งานเล็กที่ยิ่งใหญ่”

.


หลายคนที่เกษียณแล้วยังคงมองหางานอดิเรก หรือแม้แต่งานอาสาสมัครเล็กๆ เพื่อเติมเต็มความรู้สึกมีคุณค่าในชีวิต บางคนปลูกต้นไม้ บางคนเขียนหนังสือ หรือบางคนกลับไปช่วยงานด้านที่เคยทำในอดีตในฐานะที่ปรึกษา

.


“ไม่ต้องทำงานหนักเหมือนเดิม แค่เลือกงานที่เรารัก และพอเหมาะกับสภาพร่างกายก็พอ”

.


การมีสิ่งที่ “อิน” กับมันในแต่ละวัน จะทำให้การใช้ชีวิตมีเป้าหมายเล็กๆ แต่มีพลังอย่างมาก ทั้งต่อตนเองและสังคมรอบข้าง

.


ข้อคิดทิ้งท้าย ชีวิตที่มีค่าไม่ได้วัดจากอายุ

.


การเตรียมตัวสำหรับวัยเกษียณไม่ใช่เพียงเรื่องเงินออม หรือสุขภาพร่างกายเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของ “ทัศนคติ” และ “วิธีคิด” ที่จะทำให้แต่ละวันมีคุณค่า

.


“แก่แล้ว… ก็แค่ตัวเลข หากใจยังพร้อมจะเรียนรู้ ก็ไม่มีคำว่าสายเกินไป” 

.


หลัก10 อ. เข้าใจง่าย

อ.1 อาหาร

อ.2 ออกกำลังกาย

อ.3 อนามัย

อ.4 อุจจาระปัสสาวะ

อ.5 อากาศ แสงอาทิตย์

อ.6 อารมณ์ จิตใจ

อ.7 อดิเรก อ.8 อบอุ่น

อ.9 อุบัติเหตุ

อ.10 อนาคต

วัยเกษียณจึงไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิตที่มีคุณค่า แต่คือบทใหม่ ที่เราสามารถเขียนด้วยมือของเราเองให้เต็มไปด้วยสุขภาพดี ความสุข และความหมาย

.


ขอบคุณข้อมูลจาก :ผศ.ดร.นพ.อภินันท์ อร่ามรัตน์ อาจารย์พิเศษประจำภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์ มช.

เรียบเรียง : นางสาวนันทพร ระบิน

ภาพ / ข่าว : งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

.


#สุขภาพดีไม่มีวันเกษียณ #เทคนิคการดูแลสุขภาพ #วัยเกษียณ #สุขภาพดีกับหมอสวนดอก #MedCMU #คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ #แพทย์เชียงใหม่ #แพทย์มช #หมอสวนดอก #โรงพยาบาลสวนดอก #Medcmuในมือคุณ #สื่อสารองค์กรMedcmu