
ประเทศไทยกับฤดูร้อนเป็นของคู่กัน และแสงแดดแรงจ้าในบ้านเราก็ไม่ใช่แค่เรื่องของผิวไหม้หรือคล้ำเสียเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ก่อให้เกิดริ้วรอย ฝ้า กระ และเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนังในระยะยาวอีกด้วย วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักการ “ปกป้อง” และ “ฟื้นฟู” ผิวอย่างถูกต้องกันค่ะ
เข้าใจ UV Index ก่อนออกแดด
ที่เชียงใหม่แม้อากาศจะเย็นในบางช่วง แต่ระดับรังสี UV ยังคงสูงตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วง 10.00-16.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ดัชนี UV (UV Index) สูงที่สุด องศาการตกกระทบของแสงอาทิตย์กับโลกเป็นตัวกำหนดความแรงของรังสี UV ไม่ใช่อุณหภูมิ
หลายคนเข้าใจผิดว่าอากาศร้อนจะทำให้รังสี UV สูงขึ้น แต่ความจริงแล้ว “ระดับรังสี UV” ไม่ได้ขึ้นกับอุณหภูมิเลย! แท้จริงแล้ว UV เกี่ยวข้องกับ มุมของดวงอาทิตย์ ที่ตั้งฉากกับโลกเป็นหลัก ยิ่งดวงอาทิตย์ตั้งตรงมากเท่าไหร่ ค่า UV ก็ยิ่งสูง ไม่ว่าจะอยู่ในอากาศร้อนจัด หรือแม้แต่อากาศหนาวเย็น เช่น บนภูเขาหิมะ ก็ยังมีค่า UV สูงได้เหมือนกัน
การอ่านค่า UV Index ผ่านสีต่าง ๆ
•
สีเขียว : ความเสี่ยงจาก UV ต่ำ — สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ แต่ก็ยังควรระวังเบื้องต้น เช่น ใส่แว่นกันแดด
•
สีแดง : ความเสี่ยงจาก UV สูง — ต้องเพิ่มการป้องกัน เช่น ทาครีมกันแดด สวมหมวก แว่นกันแดด หรืออยู่ในที่ร่มให้มากขึ้น
•
สีม่วง : ความเสี่ยงจาก UV สูงจัด (อันตรายมาก) — หลีกเลี่ยงการตากแดดช่วงกลางวันให้มากที่สุด และต้องป้องกันผิวอย่างเต็มที่ เพราะผิวไหม้และปัญหาผิวหนังอาจเกิดได้ง่าย
ทำไมบางคนไหม้แดดง่ายกว่าคนอื่น?
สีผิวเกี่ยวข้องกับปริมาณเมลานิน ซึ่งเป็นเม็ดสีตามธรรมชาติที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV
• คนผิวขาวมีเมลานินน้อย จึงไหม้แดดและเสี่ยงมะเร็งผิวหนังได้มากกว่าคนผิวคล้ำ
• คนผิวคล้ำมีเมลานินเยอะ เป็นเกราะธรรมชาติที่ช่วยลดอันตรายจากแดด
เมื่อโดนแดด ผิวมักจะแดงขึ้นหลังผ่านไป 6-24 ชั่วโมง และหากไหม้รุนแรงอาจเกิดตุ่มน้ำ หรือมีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว เพราะสารอักเสบถูกปล่อยออกมาจากชั้นผิวหนังที่ถูกทำร้าย
ฟื้นฟูผิวไหม้แดดอย่างถูกวิธี
• ดื่มน้ำมากๆ เพื่อลดไข้และภาวะขาดน้ำ
• ใช้ Moisturizer เพิ่มความชุ่มชื้น ลดการแห้งลอก
• หลีกเลี่ยงการทำให้ผิวลอกเอง เพราะเป็นสัญญาณของการตายของเซลล์ผิว ไม่ใช่วิธีการผลัดเซลล์ที่เหมาะสม
UVA กับ UVB : ภัยเงียบที่ต้องระวัง
• UVB ทำให้ผิวไหม้ และเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดมะเร็งผิวหนัง
• UVA ทำให้ผิวแก่ โดยสามารถทะลุกระจกได้ด้วย! แม้อยู่ในรถหรืออาคารก็ยังต้องป้องกัน UVA ให้ดี เพราะมันสามารถทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวได้
วิธีปกป้องผิวจากแดดอย่างมีประสิทธิภาพ
1. เลี่ยงออกนอกบ้าน ช่วง 10.00-16.00 น.
2. ใช้อุปกรณ์ป้องกันแดด เช่น แว่นกันแดด (ต้องมี UV400), หมวกปีกกว้าง (กว้างเกิน 7.5 ซม.), ร่มกัน UV และเสื้อผ้ากันแดด
• สีผ้าก็สำคัญ สีเข้ม เช่น สีดำ ป้องกัน UV ได้ดีกว่าสีอ่อน แม้อาจรู้สึกร้อนกว่า
3. เลือกใช้ครีมกันแดดอย่างถูกต้อง
• เลือก SPF 30 ขึ้นไป (แนะนำ SPF 50+)
• ต้องมี PA+++ หรือมากกว่า เพื่อป้องกัน UVA
• ทาครีมในปริมาณที่เพียงพอ (หน้ากับคอบีบครีมได้เท่า 2 ข้อนิ้วมือ)
• ทาก่อนออกแดด 15-30 นาที
• ถ้าต้องเผชิญน้ำ ควรเลือกสูตรที่ระบุว่า Water Resistant (กันน้ำได้ 40-80 นาที)
การปกป้องผิวจากแสงแดดไม่ใช่แค่เรื่องความงาม แต่คือการดูแลสุขภาพในระยะยาว รู้จักเลือกวิธีป้องกันที่เหมาะสม และใส่ใจดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง ผิวสวยและแข็งแรงจึงจะอยู่กับเราได้ตลอดไป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ผศ.ดร.พญ.ปานจิตต์ เชี่ยวศิลปธรรม อาจารย์ประจำภาควิชาจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์ มช. และ รศ.นพ.มติ เชื้อมโนชาญ อาจารย์ประจำหน่วยโรคผิวหนัง ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มช.
เรียบเรียง : นางสาวนันทพร ระบิน
ภาพ / ข่าว : กลุ่มงานสื่อสารองค์กร
งานประชาสัมพันธ์
คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
383
