
โรคมะเร็ง เป็นภัยเงียบที่คร่าชีวิตประชากรทั่วโลกอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักถึงอันตรายของโรคมะเร็งและหันมาใส่ใจสุขภาพของตนเอง วันมะเร็งโลก (World Cancer Day) จึงถูกกำหนดขึ้นในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ของทุกปี
จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขในปี 2565 พบว่ามะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิงไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ :
• มะเร็งเต้านม : พบผู้ป่วยจำนวน 38,559 ราย
• มะเร็งปากมดลูก : พบผู้ป่วยจำนวน 12,956 ราย
• มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
• มะเร็งปอด
• มะเร็งมดลูก
ข้อมูลนี้สอดคล้องกับรายงานของสถาบันมะเร็งแห่งชาติที่ระบุว่ามะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในผู้หญิงไทย
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลสถิติที่เจาะจงสำหรับปี 2567 ยังไม่มีการเผยแพร่อย่างเป็นทางการ แต่แนวโน้มของมะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิงไทยยังคงคล้ายคลึงกับข้อมูลก่อนหน้านี้ โดยมะเร็งเต้านมยังคงเป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในผู้หญิงไทย
ในบทความนี้ เราจะเจาะลึก 3 ชนิดมะเร็งที่พบมากที่สุด ได้แก่ มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งปากมดลูก เพื่อเรียนรู้วิธีป้องกัน การตรวจคัดกรอง และแนวทางการรักษา
มะเร็งเต้านม
เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ในท่อน้ำนมหรือเนื้อเยื่อเต้านม โดยเซลล์จะแบ่งตัวผิดปกติและลุกลามไปยังอวัยวะอื่น ๆ หากไม่ได้รับการรักษา
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
• ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่สูงผิดปกติ
• พันธุกรรม
• การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง
• อายุที่เพิ่มขึ้น
• ประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม
สัญญาณเตือน
• ก้อนผิดปกติในเต้านมหรือรักแร้
• รูปร่างหรือสีผิวของเต้านมเปลี่ยนไป
• มีของเหลวไหลออกจากหัวนม
การตรวจคัดกรอง
•คลำเต้านมด้วยตนเอง Breast-self examination; BSE : ทำเป็นประจำทุกเดือน
•ตรวจแมมโมแกรม : สำหรับผู้หญิงอายุมากกว่า 40 ปี ควรตรวจปีละครั้ง
แนวทางการรักษา
• การผ่าตัด (แบบสงวนเต้า หรือผ่าตัดเนื้อเต้านมออกทั้งหมด)
• การฉายรังสี เคมีบำบัด หรือฮอร์โมนบำบัด
มะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับ 2 ในผู้หญิงไทย มักเกิดในลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
• พันธุกรรม
• โรคเรื้อรังในลำไส้
• การรับประทานเนื้อสัตว์มากเกินไป
• การขาดการออกกำลังกาย
การตรวจคัดกรอง
• ตรวจอุจจาระหาเลือดแฝง : ทำปีละครั้ง (เริ่มที่อายุ 50 ปี)
• การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ : ทุก 5 ปี
แนวทางป้องกัน
• รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผักและผลไม้
• ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
• รับการตรวจคัดกรองตามช่วงอายุที่เหมาะสม
การรักษา
• การผ่าตัด
• การฉายรังสีและเคมีบำบัดในกรณีที่โรคลุกลาม
• ยามุ่งเป้า (targeted therapy)
มะเร็งปากมดลูก
มะเร็งปากมดลูก เกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus) เป็นมะเร็งที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนและการตรวจคัดกรอง
ปัจจัยเสี่ยง
• การติดเชื้อ HPV
• การสูบบุหรี่
• การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อยหรือมีคู่หลายคน
อาการ
• เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด
• ตกขาวมีกลิ่นเหม็น
• ปวดท้องน้อย
การตรวจคัดกรอง
• แป๊บสเมียร์ : ตรวจหาเซลล์ผิดปกติ
• HPV DNA Test : ตรวจหาเชื้อ HPV โดยตรง
การป้องกัน
• ฉีดวัคซีนป้องกัน HPV ตั้งแต่อายุ 9-26 ปี
• หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง
• ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุก 2-5 ปี ตามคำแนะนำของแพทย์
การป้องกันและการตรวจคัดกรองมะเร็งตั้งแต่ระยะแรกเริ่มช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสรอดชีวิตอย่างมาก สิ่งสำคัญคือการปรับพฤติกรรมสุขภาพ เช่น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: ศ.(เชี่ยวชาญพิเศษ)พญ.อิ่มใจ ชิตาพนารักษ์ อาจารย์หน่วยรังสีรักษาเเละมะเร็งวิทยา ภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มช. และ ประธานเครือข่ายมะเร็งเต้านมภาคเหนือ
เรียบเรียง:นางสาวนันทพร ระบิน
ภาพ / ข่าว : กลุ่มงานสื่อสารองค์กร
งานประชาสัมพันธ์
คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
320
