Skip to content

เครื่องดื่มแอลกฮอล์ อันตรายต่อ “ตับ” มากแค่ไหน?

โรคตับที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ (ARLD) หมายถึงความเสียหายของตับที่เกิดจากการบริโภคแอลกอฮอล์มากเกินไป มีหลายระยะของความรุนแรงและอาการที่เกี่ยวข้องหลายประการ
หน้าที่หลักของตับ
ตับเป็นอวัยวะสำคัญที่มีหน้าที่หลักดังนี้:
•ทำลายและกำจัดสารพิษ: ตับช่วยกรองและกำจัดสารพิษ ยา และเชื้อโรคต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งเป็นการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
•การผลิตสารสำคัญ: ตับสร้างโปรตีนสำคัญ เช่น แอลบูมิน (albumin) และโปรตีนที่เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด รวมถึงผลิตน้ำดีที่ช่วยในการย่อยอาหาร
•สะสมพลังงานและสารอาหาร: ตับเป็นแหล่งสะสมพลังงานในรูปของไกลโคเจนและสารอาหารอื่นๆ ที่จะถูกนำมาใช้เมื่อร่างกายต้องการพลังงาน
แอลกอฮอล์ทำลายตับได้อย่างไร
เมื่อดื่มแอลกอฮอล์ ร่างกายจะเปลี่ยนแอลกอฮอล์เป็นสารที่ชื่อว่า แอซีตัลดีไฮด์ (acetaldehyde) ซึ่งเป็นสารที่ทำลายเซลล์ตับโดยตรง การทำลายเซลล์ตับนี้จะทำให้เกิดการอักเสบและเพิ่มการสะสมของพังผืดในตับ ส่งผลให้ตับทำงานผิดปกติและพัฒนาเป็นภาวะตับแข็งได้เมื่อดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลานาน
ระยะของโรคตับจากแอลกอฮอล์
การดื่มแอลกอฮอล์อย่างต่อเนื่องจะทำให้เกิดโรคตับได้ใน 3 ระยะ ดังนี้:
•ภาวะไขมันสะสมในตับ: เกิดขึ้นได้แม้เพิ่งเริ่มดื่ม หากหยุดดื่มในระยะนี้ ตับจะสามารถกลับสู่สภาพปกติได้
•ภาวะตับอักเสบเรื้อรัง: ตับถูกทำลายช้าๆ และเริ่มมีการสะสมพังผืด
•ภาวะตับแข็ง: เกิดในผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลานาน (มักมากกว่า 10 ปี) ภาวะนี้เสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น มะเร็งตับ และเลือดออกในทางเดินอาหาร
อาการของโรคตับจากแอลกอฮอล์
อาการจะขึ้นอยู่กับระยะของโรค:
•ระยะต้น: ไม่มีอาการแสดงชัดเจน อาจพบตับโตหรือค่าการทำงานของตับสูงจากการตรวจเลือด
•ระยะตับแข็ง: มีอาการบวมน้ำ ท้องมาน ตาเหลืองตัวเหลือง และอาการสับสน ซึ่งแสดงถึงโรคที่พัฒนาไปมากแล้ว
ปริมาณการดื่มที่เสี่ยงต่อโรคตับแข็ง
การดื่มแอลกอฮอล์เกิน 20 กรัมต่อวันในผู้หญิง และ 40 กรัมต่อวันในผู้ชาย ต่อเนื่องกันมากกว่า 10 ปี จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคตับแข็ง ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ได้แก่:
ผู้หญิงมีความเสี่ยงสูงกว่าผู้ชาย
•การมีโรคตับอื่นร่วม เช่น ไวรัสตับอักเสบ หรือโรคอ้วน
•การสูบบุหรี่ และพันธุกรรม
การรักษาและการป้องกันโรคตับจากแอลกอฮอล์
•การหยุดดื่มแอลกอฮอล์: หากอยู่ในระยะแรกๆ การหยุดดื่มสามารถช่วยฟื้นฟูตับให้กลับมาปกติได้ แต่ถ้ามีการสะสมพังผืดและเกิดตับแข็งแล้ว การหยุดดื่มจะช่วยชะลอการเสื่อมของตับ
•การรักษาในโรงพยาบาล: สำหรับภาวะตับอักเสบรุนแรง อาจต้องรักษาด้วยยาและปลูกถ่ายตับหากไม่สามารถฟื้นฟูสภาพเดิมได้
การสังเกตว่าติดแอลกอฮอล์หรือไม่
ถามตนเองตามเกณฑ์ 4 ข้อต่อไปนี้ อาจบ่งบอกถึงการติดแอลกอฮอล์:
1. เคยคิดว่าควรลดการดื่มหรือไม่
2. คนอื่นเคยตำหนิพฤติกรรมการดื่มของคุณหรือไม่
3. รู้สึกผิดกับการดื่มหรือไม่
4. รู้สึกว่าต้องดื่มทันทีหลังตื่นนอนหรือไม่
หากมีการติดแอลกอฮอล์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการเลิกดื่มที่ปลอดภัย
ขอบคุณข้อมูลจาก :รศ.พญ.กนกวรรณ ภิญโญพรพาณิชย์
อาจารย์ประจำหน่วยระบบทางเดินอาหาร ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มช.
เรียบเรียง:นางสาวนันทพร ระบิน
ภาพ / ข่าว : กลุ่มงานสื่อสารองค์กร
งานประชาสัมพันธ์